เล่าเรื่องผ่านเส้นด้ายไปกับงานศิลปะที่เรียกว่า ‘สตริงอาร์ต’ // ขอขอบคุณ Aday Bulletin สำหรับบทสัมภาษณ์ค่ะ
https://adaybulletin.com/life-string-art/9810
‘ปุ้ย’ – ณัฐชา โพธิ์อุดม เจ้าของ Sweet no Sugars Studio คือศิลปินอิสระผู้สร้างสรรค์งานศิลปะด้วยเทคนิคการพันเส้นด้ายบนตะปู จนเกิดเป็นลวดลายอันงดงามที่ไม่มีขีดจำกัดของคำว่ารูปแบบและกฎเกณฑ์
01 The Staring Point
เมื่อก่อนเราเป็นศิลปินที่สตูดิโออื่นมาก่อน ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของเราในการถ่ายทอดทำเวิร์กช็อป และถ่ายทอดความรู้และทักษะทางศิลปะให้กับทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และคนหลากหลายช่วงวัย ด้วยความที่เราเรียนมัณฑนศิลป์ จึงถูกหล่อหลอมให้เป็นเหมือนสายลงมือทำ (ยิ้ม) เราจะเป็นคนที่เวลาคิดอะไรแล้วก็ลงมือทำเลย เหมือนอย่างงานสตริงอาร์ตที่พอเราเห็นรูปแบบแล้วก็เลยลองหาไม้กระดาน ตะปู และด้าย มาทดลองทำ อันแรกพังก็ไม่เป็นไร ก็ลองทำใหม่
02 The Strings Attached
ในการเลือกรูปมาทำงานสตริงอาร์ต ส่วนสำคัญคือความถี่ของตะปูที่จะตอกลงไป ถ้ารูปมีความคดเคี้ยวมาก มีรายละเอียดมาก ตะปูที่ตอกลงไปก็ยิ่งต้องถี่สอดคล้องไปกับรอยหยักรอยโค้งของภาพ แต่ถ้าจะให้อาร์ตไปกว่านั้น ก็สามารถใช้ไม้เก่า แผ่นไม้จริงๆ แล้วเอาวัสดุที่มีเท็กซ์เจอร์สวยๆ อย่างผ้ากระสอบหรือกระดาษสาปิดพื้นผิว ก็จะได้ความสวยงามไปอีกแบบ
03 Creative String Art
งานสตริงอาร์ตไม่ใช่เรื่องใหม่ ชาวต่างชาติเขาทำกันมานานแล้ว เพียงแค่เราลองใช้มือแทนพู่กัน ใช้เส้นไหม เส้นเชือก ผ้า แทนสีที่นำมาแต่งแต้ม เราก็หาตัวตนของเราไป ใช้ทุกอย่างที่เป็นวัสดุมาทำงานศิลปะ ตอนหลังเราเปิดเป็นเวิร์กช็อปให้คนได้มาลองทำ ก่อนจะเปิดสอนเป็นเวิร์กช็อปให้คนอื่น ตัวเราต้องทดลองทำดูก่อนว่าแพตเทิร์นแบบนี้มันยากไปไหม คนทั่วไปที่ไม่มีพื้นฐานด้านศิลปะจะสามารถทำความเข้าใจได้รึเปล่า เช่น การเลือกโทนสีของเส้นเชือกก็จะมีทั้งแบบสีเดียว โทนเดียว หรือเป็นการไล่โทนสี ซึ่งเราจะเลือกสีอะไรหรือตรงไหนก็ขึ้นอยู่กับเอฟเฟ็กต์ของแสงและเงาที่ต้องการ ส่วนรูปแบบการพันเส้นเชือกหรือเส้นด้ายก็มีวิถี มีทิศทางของมันอยู่ เช่น จะพันเป็นกลีบดอกไม้ จะต้องพันไปในทิศทางไหน เพื่อให้เกิดความพลิ้วไหว
04 Everyone Can Enjoy
สำหรับเรา การทำงานศิลปะชนิดไม่มีข้อจำกัด ไม่จำเป็นต้องอ้างอิงความจริงว่าต้นไม้ต้องเป็นสีเขียว เพราะมันก็เป็นรูปแบบหนึ่งของการสื่อสารด้วยงานศิลปะจากตัวตนและความชอบของศิลปินเอง เสน่ห์ของสตริงอาร์ต สำหรับเราคือจังหวะของเส้นด้าย เส้นเชือกที่สร้างเป็นลวดลาย ซึ่งความจริงมันเป็นเหมือนการบำบัดอย่างหนึ่งเลยทีเดียว เพราะงานชนิดนี้มันสร้างสมาธิสุดๆ เป็นงานที่หยุดแล้วจะขาดตอน เส้นด้ายควรจะต่อเนื่องไปเลยทั้งชิ้นงาน มีปมแค่ตอนเปิดและปิดตัวชิ้นงาน ซึ่งเส้นแต่ละแบบก็บอกถึงบุคลิกของคนทำที่ต่างกัน อย่างเวลาเราไปเปิดเวิร์กช็อป แค่เห็นการพันเชือก เราสามารถบอกได้เลยว่าคนนี้เป็นคนมีระเบียบ ผ่านการมองความถี่และลวดลายของเส้นเชือกที่เขาพันบนตะปูเท่านั้น (ยิ้ม)
https://www.youtube.com/channel/UCKirFH89jyL3gyfx-JC9zUQ
Sweet//no//Sugars เมื่อความหวานมีประโยชน์ พูดคุยกับสตูดิโอออกแบบที่ใช้ศิลปะมาดูแลสังคม
สตูดิสตูดิโอที่มีผลงานหลากหลายรูปแบบ ทั้งงานวัสดุผ้า ผลิตภัณฑ์ DIY จัดสวน เครื่องประดับ เฟอร์นิเจอร์ การวาดภาพ ปะติมากรรมกระดาษ ฯลฯ Sweet//no//Sugars เป็นสตูดิโอที่ก่อตั้งมาเพื่อสนับสนุนการแลกเปลี่ยนความรู้ จุดประกาย และต่อยอดความคิดของคนจากหลากหลายสาขา ไม่จำกัดแค่เพียงศิลปะและการออกแบบเท่านั้น โดยมีจุดเริ่มต้นคือการได้อยู่ท่ามกลางสิ่งที่รักของณัฐชา โพธิ์อุดม กราฟิกดีไซเนอร์ที่ผันตัวมาเป็นศิลปินที่เลือกประยุกต์ศิลป์จากสิ่งที่ชอบและสะสม เริ่มต้นจากความชอบงานวัสดุผ้าและเท็กซ์ไทล์ดีไซน์ นำมาผสมผสานเป็นสื่อผสม (mixed media) โดยผลงานแต่ละชิ้นจะเป็นการนำตัวเองเข้าไปเชื่อมโยงกับสถานที่นั้นๆ ทำให้ผู้ที่เข้าชมงานในสถานที่นั้นๆ สามารถรู้สึกถึงผลงานได้
จากการมองเห็นความแตกต่างระหว่างความคราฟท์ของงานอดิเรกแม่บ้านและงานฝีมือที่ต่อยอดได้จริง ทำให้คุณณัฐชาเริ่มต้นผลักดันให้ผู้ที่สนใจในงานคราฟท์นำทักษะฝีมือไปผสมผสานกับทักษะของการออกแบบ ด้วยการเปิดเวิร์กช็อปเพื่อพัฒนางานฝีมือให้ไปไกลกว่าการเป็นแค่ความชอบส่วนตัว ในช่วงแรกเวิร์กช็อปเกิดขึ้นในพื้นที่แกลเลอรี่ของคุณณัฐชา โดยไม่ได้เป็นการกำหนดหัวข้อจากความชอบของตัวเอง แต่เป็นการคิดหัวข้อจากโจทย์ความต้องการของผู้ที่สนใจ มีการเปิดรับความคิดเห็นจากกลุ่มคนต่างๆ เพื่อนำมาออกแบบหลักสูตรในแต่ละครั้ง จนเกิดเป็นเวิร์กช็อปกว่า 33 แบบ ทั้งทอผ้า ปักผ้า เพ้นท์จาน เย็บกระเป๋า ซึ่งล้วนแต่เป็นการลงมือทำเพื่อเพิ่มลูกเล่นหรือเทคนิคใหม่ให้กับทักษะเดิมที่แต่ละคนถนัด
ด้วยประสบการณ์ในวงการศิลปะและการศึกษาจากสาขาประยุกต์ศิลป์ คุณณัฐชาจึงสนใจในเรื่องของการนำทักษะศิลปะมาปรับใช้ให้เป็นรูปธรรมด้วยการพัฒนาชุมชนและสังคม ถ่ายทอดไปสู่กลุ่มคนที่หลากหลาย
จากการมองเห็นว่าหลานของตัวเองนั้นมีอาการติดโลกออนไลน์และมือถือแท็บเลตต่างๆ ไม่ห่างตัว ส่งผลให้เป็นไฮเปอร์ สมาธิสั้น ขาดพัฒนาการการเรียนรู้ด้วยมือ คุณณัฐชาจึงทดลองแก้ปัญหานี้ด้วยการให้ทอกี่ผ้า ผลคือหลานมีสมาธิมากขึ้น เกิดความภาคภูมิใจในผลงานที่ตัวเองทำ จากจุดนี้เป็นเหมือนการจุดประกายให้เริ่มต้นทำเวิร์กช็อปกับกลุ่มเด็กหรือผู้ใหญ่ที่มีปัญหา โดยให้ศิลปะเป็นเครื่องมือในการช่วยคลี่คลายปัญหาต่างๆ โดยแบ่งกลุ่มผู้สนใจเวิร์กช็อปตามพื้นฐานที่ใกล้เคียงกัน อย่างเช่นกลุ่มเด็กเล็ก กลุ่มผู้สูงอายุ เพราะการแบ่งกลุ่มในลักษณะนี้จะสอนได้ง่ายและสามารถประเมินผลอย่างเรื่องของคุณภาพงาน ระยะเวลา หรือศักยภาพในการต่อยอดได้มีประสิทธิภาพมากกว่า
ตัวอย่างเวิร์กช็อปที่ Sweet//no//Sugars ใช้ศิลปะไปพัฒนาสังคม อาทิ กลุ่มผู้สูงวัยในจังหวัดพิษณุโลก ริเริ่มโครงการจากเทศบาลที่มีไอเดียในการเริ่มกิจกรรมศิลปะบำบัด เพื่อให้ผู้สูงอายุมีสมาธิและสามารถมองเห็นคุณค่าในตัวเอง หรือเวิร์กช็อปร่วมกับกลุ่มจิตเวช ใช้การออกแบบผ้ามาช่วยรักษาผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ไปจนถึงกลุ่มเด็กออทิสติก ผ่านการพัฒนาหลักสูตรที่เหมาะสมกับเฉพาะกลุ่ม มีทั้งการเข้าไปสอนพยาบาลจิตเวชในโรงพยาบาลที่จังหวัดเชียงรายและพิษณุโลก เพื่อให้พยาบาลนำความรู้ที่ได้ไปสอนต่อไปได้อีกไม่สิ้นสุด
นอกจากนี้ Sweet//no//Sugars ยังคงรับออกแบบทั่วไป พร้อมด้วยทีมที่มีความถนัดตามแต่ละสาขา ช่วยกันพัฒนาไอเดียสำหรับลูกค้า มีผลงานหลากหลายทั้ง แพคเกจจิ้ง ของชำร่วย อีเว้นท์ต่างๆ
หนึ่งในความโดดเด่นของสตูดิโอนี้คือความแตกต่างของรูปแบบเวิร์กช้อป Sweet//no//Sugars การันตีว่าผู้ที่มาเข้าร่วมจะสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ประโยชน์ได้จริง ยิ่งถ้าหากพกความตั้งใจมาเกินร้อย การต่อยอดนั้นจะเกิดผลกับผู้เข้าร่วมในระยะยาวได้อย่างแน่นอน อย่างที่คุณณัฐชาบอกกับเราว่า สำหรับงานคราฟท์นั้นยิ่งทำมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเห็นลายเซนตัวเองชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น “สิ่งสำคัญคือเรารู้ตัวเองหรือยังว่าเราโดดเด่นด้านไหน จำไว้ว่าเราไม่ได้แข่งกับใคร ขอเพียงตอบตัวเองให้ได้ว่าเรา 100% กับงานที่ทำแล้วจริงๆ หรือยัง”
1. วิธีการสอนที่แตกต่าง ด้วยเทคนิคที่นำศิลปะมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
2. สอนตัวต่อตัว เพื่อนำจินตนาการของแต่ละคนออกมาได้มากที่สุด
3. หลักสูตรนำไปต่อยอดเป็นอาชีพได้จริง
https://www.tcdcconnect.com/content/detail/31552/?m=TCDC&d=kamolkarn&t=know_who&i=7176
ข้อแนะนำสำหรับนักออกแบบรุ่นใหม่:
“คนรุ่นใหม่ตอนนี้ดีที่ได้ลองหลายอย่าง แต่เมื่อลองทำเเล้วให้คิด หาตัวตนให้เจอให้เร็วที่สุด ถ้าเจอแล้วจะถึงจุดของคำว่ามีความสุขที่แท้จริงๆ ให้รีบเก็บความชอบนั้นไว้เเล้วนำมาต่อยอดทันที ต่อยอดเป็นอาชีพ มีรายได้ ทั้งหมดนี้มาจากความชอบหรืองานอดิเรก ที่สำคัญคือหาความชอบของตัวเองให้เจอเป็นก้าวแรกก่อน”
Thank You | บทความจากงานสัมนา โดย TCDC
14 August 2017 | TCDC | KNOW WHO
ปักเล่นเป็นลาย (เป็นเครื่องประดับ)
ศิลปะการสร้างสรรค์เครื่องประดับจากผ้า โดยการใช้เทคนิคงานปัก โดยนำพื้นฐานของลวดลายในงานปักมาสร้างสรรค์เป็นลายใหม่ๆ และแบบเน้นการใช้รูปทรงเรขาคณิตมาจัดองค์ประกอบให้เกิดพื้นที่และลวดลายทับซ้อน สร้างสีสรรค์และองค์ประกอบหลากหลายบนพื้นที่เล็กๆอย่างเครื่องประดับได้ การปักผ้าเป็นการบำบัดและผ่อนคลายอย่างหนึ่ง ช่วยในเรื่องของสมาธิและอารมณ์เสริมสร้างความสุขอีกด้วย
ค่าอุปกรณ์แบบประกอบกับแป้นโลหะ 180 – 250 บาท/คน
ค่าอุปกรณ์แบบสักหลาด 80 บาท/คน
(สามารถนำชิ้นงานกลับบ้านได้)
สมัครได้ที่ https://www.zipeventapp.com/e/diyactivities
ข้อมูลเพิ่มเติม
ผู้จัดกิจกรรม: สวีทโนชูการ์ สตูดิโอ
Email: sweet.no.sugars@gmail.com
Website: https://sweetnosugars.com/, https://www.facebook.com/sweetnosugars/
วันที่
31 ม.ค. 2562 – 3 ก.พ. 2562
เวลา
16.00-22.00
สถานที่
Creative Market ลานหน้าอาคารไปรษณีย์กลาง
#BKKDW2019 #bangkokdesignweek
SW Studio Arts & Crafts Workshops We are dedicated to Knowledge of arts,designs,crafts and open person’s mind. Our aim is to sketch the dream for an artistically inspired the future for our community.
เราทุ่มเทเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับศิลปะ การออกแบบ งานฝีมือและ เปิดใจผู้คน เป้าหมายของเราคือการวาดฝันให้กับอนาคตสร้างแรงบันดาลใจทางศิลปะสำหรับชุมชน และเชื่อว่า งานศิลปะและการสร้างสรรค์ไม่ควรหยุดอยู่ที่ใครคนใดคนหนึ่ง ควรถูกถ่ายทอดและต่อยอดทางความคิดให้เติบโตและพัฒนาต่อไป เหมือนเป็นการแลกเปลี่ยนมุมมองใหม่ๆ ที่ดี ให้กับสังคมอยู่ตลอดเวลา SW Studio รวบรวมคิดค้น ศิลปะและงานออกแบบด้วยสองมือ เริ่มต้นด้วยรักความชอบ สร้างสรรค์ให้เกิดเป็นประโยชน์และใช้งานได้จริงในชีวิต ผลงานหลากหลายแขนง ทำงานอย่างมืออาชีพ พร้อมที่จะถ่ายทอดความรู้ และเป็นผู้จุดประกายความเป็นศิลปินในตัวของทุกคนออกมา ให้ทุกคนทำได้เก่งได้ แค่ด้วยหัวใจที่รัก เมื่อเริ่มจากรักไม่ว่าอะไรก็ตามเราจะทำมันได้ดีเสมอ
SW Studio สร้างสรรค์งานศิลปะ และออกแบบ เพื่อถ่ายทอดความรู้ แก่ผู้คน ทุกเพศ ทุกวัย ในรูปแบบของ Workshops Event หลากหลายประเภท งานศิลปะและการสร้างสรรค์ไม่ควรหยุดอยู่ที่ใครคนใดคนหนึ่ง ควรถูกถ่ายทอดและต่อยอดทางความคิดให้เติบโตและพัฒนาต่อไป เหมือนเป็นการแลกเปลี่ยนมุมมองใหม่ๆ ที่ดี ให้กับสังคมอยู่ตลอดเวลา SW Studio เป็นที่รวมผลงานและความคิดสร้างสรรค์ จากศิลปินที่รักในงานศิลปะ ทำงานอย่างมืออาชีพ พร้อมที่จะถ่ายทอดความรู้ และเป็นผู้จุดประกายความเป็นศิลปินในตัวของทุกคนออกมา ให้ทุกคนเก่งได้แค่ด้วยหัวใจที่รัก ศิลปะและออกแบบ มีอยู่ในตัวทุกคน เหมาะสำหรับ บุคคลทั่วไปทุกเพศ ทุกวัย , องค์กร , บริษัท , สถาบันการศึกษา , โรงแรม , ร้านอาหาร , งานกิจกรรม ทุกระดับ เราพัฒนาผลงานสร้างสรรค์และจินตนาการให้ตอบโจทย์เฉพาะสถานที่หรือกลุ่มบุคคล ได้เป็นอย่างดี
งานทดลองย้อมด้วยแก่นฝาง และขมิ้น : ขมิ้น นอกจากใช้เป็นยาสมุนไพรแล้ว น้ำสีที่ได้จากการต้มขมิ้นแห้ง อัตรา 100 กรัม กับน้ำ 2 ลิตร ใช้เป็นสีย้อมไหมและผ้าจากเส้นใยธรรมชาติได้ วิธีย้อมเส้นไหมและผ้าต่างๆ ให้ติดสีดีและไม่แตกเป็นขุย ควรย้อมในน้ำสกัดจากขมิ้นเครือที่อุณหภูมิประมาณ 85 องศาเซลเซียส นาน 90 นาที การใช้สารช่วยติดสีที่มีฤธิ์เป็นด่างและเกลือแกง ช่วยให้เส้นไหมติดสีเหลืองทองเข้มกว่าเมื่อใช้สารติดสีที่มีฤทธิ์เป็นกรด และคุณภาพสีดีกว่าการไม่ใช้สารช่วยติดสีใดๆ การย้อมที่อุณหภูมิ 95 องศาเซลเซียส เป็นเวลานาน ทำให้เส้นไหมเสื่อมสภาพเส้นแตกเป็นขุย
การย้อมด้วยฝาง ฝางเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง นิยมนำแก่นมาทำเป็นยาสมุนไพร เมื่อนำมาต้มจะได้น้ำสีแดง ใช้วิธีการต้มย้อมนานครั้งละ 10 นาที จำนวน 3 ครั้ง โดยย้อมด้วยน้ำสีสกัดที่จางซึ่งเป็นน้ำต้มฝางครั้งที่ 3 ก่อน แล้วจึงย้อม ครั้งที่ 2 และ 3 ด้วยน้ำสกัดสีที่เข้มข้นขึ้น ก่อนนำแก่นต้มให้ได้น้ำสีจะต้องแช่แก่นทิ้งไว้ในน้ำปกติ 1 คืน เพื่อให้สีในแก่นออกมาเข้มข้น แต่ฝางจะไม่ค่อยทนต่อแสงแดดมากนักอาจซีดจางไปตามกาลเวลา อาจสามารถใช้ครั่งผสมผสานย้อมด้วยกันจะทำให้ได้สีแดงเข้มและติดทนนานมากยิ่งขึ้น ารใช้สารช่วยติดสีที่มีฤทธิ์เป็นด่างและเกลือแกงจะทำให้สีไม่หลุดลอกง่าย
เรียบเรียง,ทดลอง และสอน : numalii’s
🙂 เก็บเล็กผสมน้อยเรื่องการย้อมสีจากธรรมชาติ จากสิ่งรอบๆ ตัวเรา อะไรบ้างที่สามารถให้สีสันแก่ผืนผ้าของเราได้ ในบทความนี้เรารวมข้อมูลของ พืชพันธ์ต่างๆที่ให้สีมารวมไว้ให้ศึกษากันคร่าวๆ ก่อน งานย้อมสีธรรมชาตินับว่าเป็นเรื่องที่ไม่ได้ง่ายดายนักหากเราเป็นมือใหม่ ค่อนข้างที่จะละเอียดอ่อน และต้องใส่ใจทุกรายละเอียดพอดู เพื่อที่จะให้ได้ผืนผ้าสีสวยจากธรรมชาติได้ถูกใจเราจริงๆ ในแต่ละขั้นตอน และการศึกษาทดลองนี่แหละนับเป็นเสน่ห์ของสีธรรมชาติ ความภูมิใจ ความพากเพียรของการสร้างสรรค์ผ้าแต่ละผืนที่หาที่ไหนเหมือนไม่ได้ และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และตัวเราอีกด้วย อย่างที่รู้กัน ….ยกตัวอย่าง
สีธรรมชาติได้จากต้นไม้ในป่า โดยได้จากบางส่วนของต้นไม้ เช่น ราก แก่น เปลือก ต้น ผล ดอก เมล็ด ใบ
– สีแดง ได้จาก รากยอ แก่นฝาง ลูกคำแสด เปลือกสมอ ครั่ง
– สีคราม ได้จาก รากและใบของต้นคราม หรือต้นห้อม
– สีเหลือง ได้จาก แก่นแขหรือแก่นแกแล แก่นขนุน ต้นหม่อน ขมิ้น เปลือกไม้นมแมว แก่นสุพรรณิการ์ ดอกกรรณิการ์ ดอก ดาวเรือง
– สีตองอ่อน ได้จาก เปลือกต้นมะพูด เปลือกผลทับทิม แก่นแกแลและต้นคราม ใบหูกวาง เปลือกและผลสมอพิเภก ใบส้มป่อยและผงขมิ้น ใบแค ใบสับปะรดอ่อน
– สีดำ ได้จาก ผลมะเกลือ ผลกระจาก ผลและเปลือกสมอ
– สีส้ม ได้จาก เปลือกและรากยอ ดอกกรรณิการ์ (ส่วนที่เป็นหลอดสีส้ม) เมล็ดคำแสด
– สีเหลืองอมส้ม ได้จาก ดอกคำฝอย
– สีม่วงอ่อน ได้จาก ลูกหว้า
– สีชมพู ได้จาก ต้นฝาง ต้นมหากาฬ
– สีน้ำตาล ได้จาก เปลือกไม้โกงกาง เปลือกผลมังคุด
– สีกากีแกมเหลือง ได้จาก หมากสง กับแก่นแกแล
– สีเขียว ได้จาก เปลือกต้นมะริดไม้ ใบหูกวาง เปลือกสมอ ครามย้อมทับด้วยแถลงพืชบางชนิดบางคนอาจรู้จัก บางคนเพิ่งจะเคยได้ยินชื่อ หากผู้ที่ชื่นชอบต้องการเริ่มต้นย้อมสีธรรมชาติด้วยตัวเอง ก็เลือกที่เรารู้จักใกล้ตัวหาง่ายไว้ก่อนก็ได้ค่ะจะได้ไม่ท้อแท้จนเกินไป ในบทความต่อไปเราจะมีลงรายละเอียดแต่ละกลุ่มสี และความเฉพาะตัวของแต่ละพืชพันธ์กันนะคะ
ข้อมูลเรียบเรียง : numalii’s
…………….Sweet no Sugars Studio หรือ SW Studio ที่มาของเราจากแค่เพียงจุดเริ่มต้นเล็กๆของการต่อยอดความฝัน ที่อยากจะเดินทาง และขับเคลื่อนชีวิตด้วย “ศิลปะ และการออกแบบ ” คำสั้นๆ ที่จินตนาการไม่รู้จบ ศิลปะที่เป็นแบบฉบับของเรา มีความพอดี เหมาะสม ในตัวเอง มีหลักในการถ่ายทอดความรู้ ในรูปแบบของการให้ผู้เรียนค้นหาจินตนาการทางศิลปะที่ซ่อนในเบื้องลึกของจิตใจในแบบของตัวเองออกมา ส่วนเราจะมีหน้าที่สอดแทรกในรูปของ แรงบันดาลใจ วิธีการ ประโยชน์ใช้สอย หลักการในงานออกแบบและหลักการทางศิลปะ เพื่อสร้างความเป็นไปได้ และสร้างฝันของผู้คนให้เป็นจริง โดยการสื่อสารผ่านทางการเรียน หรือ จากผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของเรา….ศิลปะและการออกแบบ จากประสบการณ์ที่สั่งสมมา จากการทดลอง จากการศึกษา ช่วยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์อันหลากหลาย ด้วยการเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ ที่ตัวเองรัก และด้วยความเชื่อที่ว่า “ศิลปะ” สามารถเยียวยาทุกสิ่งได้ และสร้างสิ่งยิ่งใหญ่เสมอ